บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด หรือ ไอแอม กำหนดจัดพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “การถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร” ระหว่าง บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด กับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ (มทร.รัตนโกสินทร์) ขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์2562 เวลา ณ โรงแรม โกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ
โดยพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือ “การถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร” ระหว่าง บริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารสินทรัพย์และกฎหมาย โดยนายธงรบ ด่านอำไพ ผู้จัดการบริษัท บริหารสินทรัพย์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย จำกัด กับ มหาวิทยาลัยราชมงคลรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมการจัดการและเทคโนโลยีดิจิตอล โดย รศ.ดร.อุดมวิทย์ ไชยสกุลเกียรติ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ ซึ่งได้รับมอบหมายจาก อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ โดยการลงนามดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ
สร้างความร่วมมือ แลกเปลี่ยนพัฒนาขีดความสามารถและเชื่อมโยงกิจกรรมด้านการพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรมการบริหาร ของทั้งสองฝ่ายให้เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืนต่อไปในอนาคต
พัฒนาความร่วมมือด้านการถ่ายทอดองค์ความรู้ระหว่าง บริษัท บริหารสินทรัพย์ กับ วิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ เพื่อประโยชน์ของประชาชน ผู้ประกอบการ บุคลากร และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาให้เข้มแข็งและเป็นรูปธรรม
นายธงรบกล่าวว่า “เป้าหมายในเชิงตัวเลขเราประสบความสำเร็จ รายได้ทะลุเป้าแน่นอน ซึ่งเป็นเป้าหมายในทางรัฐ ในฐานะที่ผมได้รวบรวมเอาบรรดาพนักงาน ผู้ร่วมงานระดับมืออาชีพ มาทำงาน และแก้ไขปัญหาด้านสินทรัพย์ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับความพอใจ เราทำงาน เราสัมผัสได้ว่าผู้ประกอบการ ประชาชนมีความสุข ความรู้เหล่านี้ไม่ควรที่จะสูญเปล่า เพราะจะช่วยให้ประเทศเดินหน้าได้รวดเร็วขึ้น ก็มาคิดว่าความรู้นวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการทำงานต้องคืนกลับสู่สังคม วิธีการที่จะเป็นไปได้มากที่สุคือการมาร่วมกับสถาบันการศึกษาซึ่งเป็นองค์กรที่มีความพร้อม ด้านบุคลากร อุดมการณ์และวิสัยทัศน์ ที่มีเป้าหมายเดียวกันที่จะบูรณาการความรู้คืนสู่สังคม เรามีประสบการณ์ทางด้าน บริหารสินทรัพย์ มีเคสสตัสดี้ ในเรื่องปัญหาแก้ไขหนี้เสีย ทางมหาวิทยาลัยมีองค์ความรู้ทางด้านบริหารการจัดการ เทคโนโลยีเราจะนำมารวมกัน ทำเป็นหลักสูตรที่แอ๊ดวานซ์มากๆ เกิดขึ้นในโลกที่ยังไม่มีใครทำ แต่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย
โดยจะมีวิทยาการที่เป็นผู้ประกอบการที่มีความสามารถ มาเป็นเคสสตัสดี้ มาเล่าให้ผู้อื่นฟังว่าเขาประสบความสำเร็จและเกิดแนวคิดใหม่ๆ อย่างไร และเขาก็ยินดีและเต็มใจที่จะชำระหนี้และกลับไปทำธุรกิจ ลูกค้าหลายคนก็มีความสุข การแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ไม่ใช่ความทุกข์แต่จะเป็นการนำความสุขความสำเร็จมาสู่ประชาชนอย่างไร”
ด้านรศ.ดร.อุดมวิทย์กล่าวว่า “เป็นเป้าหมายที่ดี ที่เราจะมีการพัฒนาจัดการเรียนการสอนหลักสูตรที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ ที่ผ่านมาการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย สถาบันอุดมศึกษาก็จะเป็นรูปแบบเดิมๆ ซึ่งใช้หลักสูตรที่มีมาหลายปีเอามาพัฒนาใหม่เท่านั้น แต่เหลักสูตรใหม่ที่จะเกิดขึ้น จะเป็นการบูรณาการระหว่างรัฐวิสาหกิจที่มีความรู้ประสบการณ์ทางด้านสินทรัพย์ ทางเรามีความด้านการศึกษา ถ้านำมามาผสมกัน คิดว่าหลักสูตรใหม่นี้จะพัฒนาการบริหารสินทรัพย์หรือหนี้ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ที่เป็นลูกหนี้มีความพึงพอใจมากขึ้น
หน้าที่ของมทร.รัตนโกสินทร์หลังจากจากเซ็นเอ็มโอยู ก็จะให้ทางวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการ รีบดำเนินการพัฒนาหลักสูตรให้เกิดขึ้นโดยเร็วเป็นรูปธรรมโดยชัดเจนภายในปีนี้แล้ว นอกจากนี้ทางวิทยาลัยนวัตกรรมการจัดการจะเปิดศูนย์บริการให้ความรู้ รวมทั้งการบริหารให้กับลูกหนี้ต่างๆ ให้ลูกหนี้พอใจที่จะชำระหนี้ต่างๆ ได้ดีขึ้นและมีความสุข
ซึ่งหลักสูตรที่ว่านี้จะเป็นหลักสูตรที่เป็นนวัตกรรมด้านการศึกษา น่าจะเป็นหลักสูตรแรกของไทย ซึ่งหลักสูตรนี้จะเป็นหลักสูตรในระดับปริญญาโท– เอก เน้นคนที่จะไปเป็นผู้บริหาร ที่จะมาซัพพอร์ตการบริหารสินทรัพย์ เราจะใช้การเรียนรู้เนื้อหาต่างๆ และการปฏิบัติให้มากขึ้น โดยบ่างเป็นภาคทฤษฎี 30% ภาคปฏิบัติ 70% คาดว่าจะเปิดได้ในปี 62 นี้”
No Comments