Post Views: 666
Believe ผู้นำระดับโลกด้านการบริหารจัดการและพัฒนาเพลงดิจิทัล ร่วมกับพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง อาทิเช่น Meta ,Spotify และ YouTube จัดงานอีเวนต์ “Believe Amplify 2025” เวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และนวัตกรรมล่าสุดสำหรับบุคลากรในวงการเพลงไทย เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่กำลังจะส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมเพลง ทั้งด้านการพัฒนาอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง และการก้าวเข้ามามีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญของ Generative AI

ประเทศไทยก้าวสู่ตลาดเพลงแบบพรีเมียม พร้อมรับมือความท้าทายในยุค AI
คุณสมวลี ลิมป์รัชตามร Country Director, Thailand, Laos, Cambodia & Myanmar ของ Believe เปิดเผยถึงพัฒนาการที่น่าตื่นเต้นของตลาดเพลงไทยว่า “อุตสาหกรรมเพลงในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบางกลุ่มศิลปินที่มียอดรายได้จากผู้ใช้งานพรีเมียมสูงถึง 50% จากยอดสตรีมทั้งหมด สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่การเป็นตลาดเพลงแบบพรีเมียมอย่างเต็มตัวแล้ว”

“ในขณะที่แพลตฟอร์มมิวสิคสตรีมมิ่งต่างมุ่งมั่นพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของตลาด ศิลปินและค่ายเพลงกำลังเผชิญกับความท้าทายจากความซับซ้อนของระบบอัลกอริทึมและการเข้ามาของ Generative AI ที่กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการสร้างสรรค์และเผยแพร่ผลงานเพลง” คุณสมวลีกล่าวเสริม

“Believe มุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและทีมงานคุณภาพที่จะอยู่เคียงข้างศิลปิน ช่วยผลักดันผลงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายของแพลตฟอร์มและการเปลี่ยนแปลงของอัลกอริทึม เพื่อขยายฐานผู้ฟังทั้งเก่าและใหม่ และสร้างรายได้สูงสุดให้กับศิลปินทั้งในตลาดไทยและต่างประเทศ”
เจาะลึกกลยุทธ์การทำตลาดบน YouTube ท่ามกลางระบบนิเวศที่ซับซ้อน

คุณปพัทธ์พล พานิชยิ่ง Regional Head of Video, SEA ได้เจาะลึกถึงระบบนิเวศของตลาด Video บน YouTube และ VDO แบบสั้น (Short form content) ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ทั้งในแง่ของความหลากหลายของประเภทคอนเทนต์ และการพัฒนาเทคโนโลยีอัลกอริทึมและ Generative AI ที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
“การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อ Music Content ของศิลปิน ทำให้ต้องอาศัยการวางแผนอย่างเป็นระบบที่สอดคล้องกับอัลกอริทึมและเทคโนโลยีของแพลตฟอร์ม” คุณปพัทธ์พลอธิบาย พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจระบบนิเวศของ YouTube และ VDO content ในรูปแบบ Multi-Format และ Multi-Platform เพื่อสร้างกลยุทธ์การวางแผนปล่อยเพลงที่จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงและส่งเสริมให้ Music Content ของศิลปินมีศักยภาพสูงสุด
อัพเดตเทรนด์และฟีเจอร์ล่าสุดจากผู้ให้บริการมิวสิคสตรีมมิ่งชั้นนำ
ช่วงท้ายของงานเป็นการอัพเดตข้อมูลและฟีเจอร์ล่าสุดจากผู้ให้บริการมิวสิคสตรีมมิ่งระดับท็อป โดย Spotify ได้นำเสนอฟีเจอร์การใช้งานใหม่ๆ พร้อมเผยจุดเด่นที่แตกต่างของแพลตฟอร์ม
และ Meta ที่มาพร้อมเคล็ดลับและกลยุทธ์สำหรับศิลปินและค่ายเพลงในการเป็นครีเอเตอร์ยุคใหม่ เพื่อสร้างการเข้าถึงแฟนเพลงจำนวนมากทั้งบน Instagram และ Facebook อย่างมีประสิทธิภาพ
และปิดท้ายด้วย YouTube ที่มาอัพเดทฟีเจอร์ และวิธีการที่ทำให้คอนเทนต์ถูกเข้าถึงมากที่สุดบน YouTube ในปัจจุบัน
No Comments