News

ชป.พร้อมรับมือฝนตกหนักเพิ่มขึ้น หลังกรมอุตุฯ ประกาศเตือน

11/07/2022

วันนี้ (11 ก.ค.65) ที่ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) กรมชลประทาน ถนนสามเสน ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ผ่านระบบ Video Conference ไปยังสำนักงานชลประทานที่ 1-17 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักการระบายน้ำ (กทม.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพื่อติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แหล่งน้ำ และแม่น้ำสายหลักต่าง ๆ สำหรับเป็นข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องและเหมาะสมในแต่ละพื้นที่

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ในฐานะโฆษกกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (11 ก.ค. 65) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ มีปริมาณน้ำรวมกัน 40,831 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 54 ของความจุอ่างฯ ยังสามารถรับน้ำได้อีก 35,253 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกัน 9,573 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 38 ของความจุอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 15,298 ล้าน ลบ.ม.

อนึ่ง กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 11 – 14 ก.ค. 65 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ และในช่วงวันที่ 15 -17 ก.ค. 65 จะมีฝนลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ดังนั้น กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมิณสถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่าจะมีปริมาณฝนตกสะสมต่อเนื่อง ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติบางพื้นที่ที่ฝนตกหนัก อยู่ในเกณฑ์น้ำมาก อาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากและน้ำท่วมฉับพลันได้ในพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้

โดยในช่วงวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวันนี้ ได้มอบหมายให้โครงการชลประทานทั่วประเทศ สำนักเครื่องจักรกล จัดกำลังเจ้าหน้าที่และจัดเวรยาม เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชม. พร้อมบริหารจัดการน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ที่ควบคุม พิจารณาปรับการระบายน้ำให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ หมั่นตรวจสอบสิ่งกีดขวางทางน้ำ กำจัดผักตบชวาในทางน้ำชลประทาน รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ให้พร้อมเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ตลอดจนปฏิบัติตาม 13 มาตรการ รับมือฤดูฝนปี 2565 ตามที่ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กำหนดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์น้ำได้ที่ www.rid.go.th http://swoc.rid.go.th/ หรือhttps://www.facebook.com/Wmsc.Irri และสายด่วนกรมชลประทาน โทร. 1460

No Comments

    Leave a Reply