แฟนคลับโอทอปเตรียมควักกระเป๋า เริ่มแล้ววันแรก “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ประจำปี 2565 ตระการตากับเส้นใยและผ้าทอไทยกว่า 300,000 ผืน พบผู้ประกอบการกว่า 2,000 ราย พร้อมชวนชิมอาหารตำนานเจ้าดัง 4 ภาค 9 วันเต็ม ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้า อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งแต่ 12-20 ส.ค.65 นี้ วางเป้ากวาดรายได้ทะลุ 500 ล้านบาท
นายสมคิด จันทมฤก อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกของการจัดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี” ปี 2565 ภายใต้แนวคิด “ผ้าทอไทย สายใยแห่งพระเมตตา สร้างอาชีพปวงประชาอย่างยั่งยืน” ซึ่งปีนี้ พช.ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่มีต่อการอนุรักษ์และสืบสานภูมิปัญญาของคนไทย รวมทั้งเพื่อประชาสัมพันธ์การดำเนินงานโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่สามารถช่วยกระจายรายได้ให้กับเศรษฐกิจชุมชนฐานรากให้มีความเข้มแข็ง
โดยภายในงาน นอกจากจะมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ที่หลากหลายจากผู้ประกอบการกว่า 2,000 ราย เช่น โซนศิลปิน OTOP โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ การจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และหน่วยงานภาคี การจำหน่ายสินค้า OTOP 5 ประเภท OTOP ชวนชิม และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายแล้ว ยังมีบูธพิเศษที่เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ด้านการออกแบบเครื่องแต่งกายและสิ่งทอ ต่อยอดการพัฒนาลายผ้าพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งในการประกาศศักดาและเชิดชูคุณค่าของผ้าไทยอันเป็นหนึ่งในงานหัตถศิลป์ล้ำค่าของช่างฝีมือไทย
นอกจากนี้ ยังมีไฮไลท์สำคัญภายในงานที่สร้างความตะลึง และประทับใจให้กับประชาชนที่เดินทางมาเยี่ยมชมงาน คือ การเนรมิต “ยักษ์” ขนาดใหญ่ความสูงเกือบ 5 เมตรที่ยืนสูงสง่าทางเข้างาน ซึ่งนอกจากเราจะเคยพบเห็นในสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ยังพบได้ที่ในงานนี้เท่านั้น สำหรับวัตถุประสงค์ในการเนรมิต “ยักษ์” ครั้งนี้ เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทน ต้อนรับ (Welcome) ทุกๆคนที่มาร่วมงาน ตั้งแต่ประตูทางเข้าชาเลนเจอร์ฮอลล์ และยังแสดงถึงความยิ่งใหญ่ น่าเกรงขาม อีกทั้งรูปร่างที่วิจิตรงดงามด้วยลวดลายที่ประดับตกแต่งบนตัวยักษ์ ยังสะท้อนถึงศิลปะและวัฒนธรรม ความเชื่อของความเป็นไทยอีกด้วย เฉกเช่น สินค้าโอทอปซึ่งมีมากมายหลายประเภท ที่มีความประณีตวิจิตรงดงาม โดยผลงานที่ชาวบ้านบรรจงรังสรรค์ ด้วยความคิดและภูมิปัญญาเหล่านี้ ได้กลายเป็นงานหัตถศิลป์ล้ำค่าให้ทั้งคนไทยและชาวโลกได้ชื่นชม พร้อมหวังให้สินค้าโอทอปไทยได้ก้าวไกลไปสู่เวทีโลกอย่างยิ่งใหญ่เหมือนกับ ” ยักษ์ “ นั่นเอง
นายสมคิด จันทมฤก กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการกลับมาจัดงานแบบเต็มรูปแบบ บนพื้นที่ 60,000 ตารางเมตร อีกครั้ง หลังจากว่างเว้นไป เนื่องจากผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยครั้งนี้มีผู้ประกอบการเข้าร่วมงานกว่า 2,000 ราย ซึ่งทุกคนที่เข้าร่วมงาน จะต้องปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ ภายในงานครอบคลุมกิจกรรมหลัก ดังนี้
1. นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 และสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อการอนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น อันเป็นที่มาของศิลปาชีพ 2.การจัดแสดงส่วนที่เป็นไฮไลท์ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก โซนตลาดกลางเส้นไหมและเส้นใยธรรมชาติ 3.การจัดแสดงและจำหน่ายผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และหน่วยงานภาคี 4.การจำหน่ายสินค้า OTOP ทั้ง 5 ประเภท รวมทั้งผลิตภัณฑ์ OTOP : KBO / OTOP Brand name / OTOP Premium / OTOP Trader / OTOP ชวนชิม รวมถึงผักและผลไม้
นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแสดง เช่น การแสดงมินิคอนเสิร์ต จากศิลปินชื่อดัง อาทิ ลำไย ไหทองคำ /เก่ง ธชย/รุ่ง สุริยา เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมส่งเสริมการขาย อาทิ การจับสลากมอบรางวัลผู้โชคดีภายในงาน เพียงซื้อสินค้าครบ 500 บาท รับคูปองลุ้นรับ Gift Voucher มูลค่า 1,000 บาท ทุกวันๆ ละ 12 รางวัล และวันสุดท้ายคูปองทั้งหมดยังมีลุ้นรับทองคำ 1 บาท จำนวน 7 รางวัล โดยการจัดงานครั้งนี้ ตั้งเป้าทำยอดขาย สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการ OTOP ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
No Comments