สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสัก แนวโน้มปริมาณน้ำทางตอนบนลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบัน (22 ต.ค. 64) สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปริมาณน้ำในพื้นที่ตอนบนบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 อ.เมืองนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,644 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 25 ลบ.ม./วินาที) ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,766 ลบ.ม./วินาที (ลดลง 13 ลบ.ม./วินาที) แต่ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ได้แก่ บริเวณ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 1 ซม. และ จ.อ่างทอง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 2 ซม.
สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างฯ ลดลงเช่นกัน และได้ปรับลดการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 570 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักบริเวณด้านท้ายเขื่อนลดลง ดังนี้
อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ลดลง 7 ซม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 5.96 เมตร)
อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ลดลง 4 ซม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 7.25 เมตร)
อ.เมือง จ.สระบุรี ลดลง 6 ซม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 1.67 เมตร)
อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลดลง 3 ซม. (ต่ำกว่าตลิ่ง 0.45 เมตร)
ส่วนที่เขื่อนพระราม 6 ได้ปรับการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 719 ลบ.ม./วินาที เพื่อแบ่งเบาปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง
ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะใช้ระบบชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง และ ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ควบคู่ไปกับการเก็บกักน้ำไว้ใช้ในช่วงฤดูแล้งหน้าให้ได้มากที่สุดด้วย
No Comments