“บิ๊กฉัตร”หารือเอกอัครราชทูตเกาหลี ยินดีไทยจัดการเลือกตั้งเรียบร้อย ไร้เหตุรุนแรง เผยยังไม่ได้แสดงความยินดี”บิ๊กตู่” บอกเกินความคาดหลังผลเลือกตั้งไม่เป็นทางการหนุนพปชร.

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังให้การต้อนรับนายอี อุก-ฮ็อน (H.E.Mr.Lee Wook-heon) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ที่เข้าเยี่ยมคารวะ ว่า เอกอัครราชทูตเกาหลี ได้แสดงความยินดีและชื่นชมกับประเทศไทยที่การเลือกตั้ง ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย และไม่มีความรุนแรง
ซึ่งการเลือกตั้งในไทยได้ดำเนินการไปอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าขณะนี้ผลการเลือกตั้งยังไม่ออกมา 100 เปอร์เซนต์ก็ตาม และย้ำว่า ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาล การเดินหน้าพัฒนาประเทศ และความร่วมมือกับเกาหลีใต้ก็จะดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวกับนายกฯ แต่จากที่เห็นตัวเลข ส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ จากสื่อมวลชนนั้น ถือว่าเกินจากที่สื่อคาดการณ์ไว้ ว่า จะได้ไม่ถึง 100 ที่นั่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่า คนในประเทศให้การสนับสนุน

เมื่อถามว่า ขณะนี้มีการคาดการณ์แล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรคพปชร. จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะต้องรอดูผลคะแนนรวมก่อน และขณะนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ ทั้งนี้ขอขอบคุณคนไทยที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ซึ่งจากการเลือกตั้งที่ผ่านไปด้วยความเรียบร้อยนี้ จะทำให้นานาประเทศยอมรับประเทศไทย ขณะเดียวกันความวุ่นวายอาจมีอยู่บ้างแต่ภาพรวมถือว่าดี ดังนั้นจึงขอขอบคุณ และขอให้รับฟังความเห็นของทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิ

พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า นายกฯเคยระบุไว้แล้วว่ารัฐบาลจะทำงานไปจนกว่ามีรัฐบาลชุดใหม่ ดังนั้นสิ่งที่เป็นปัญหาและความเดือดร้อนของประชาชนเราก็ต้องทำเต็มที่ เช่น ปัญหาภัยแล้งในขณะนี้ ตนได้กำชับทุกหน่วยงานเร่งช่วยเหลือประชาชน เพราะจากข้อมูลในปีนี้ อาจมีภาวะภัยแล้งเพิ่มขึ้น ดังนั้นทุกหน่วยงานจะต้องจัดลำดับความเร่งด่วนการใช้น้ำและบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ซึ่งในสัปดาห์นี้ตนจะเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือ เพื่อกำหนดว่า มีเรื่องใด หรือจุดใด ที่จะต้องแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน หรือต้องมีแนวทางบริหารจัดการเพิ่มเติม ในขณะเดียวกัน นายกฯ ได้เน้นย้ำว่าแม้จะมีปัญหาภัยแล้ง แต่ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือนในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค ขณะนี้มีความห่วงใยพื้นที่ที่อยู่นอกเขตชลประทาน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญ และยืนยันในพื้นที่ภาคตะวันออก ซึ่งเป็นเขตอุตสาหกรรมสำคัญ จะไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้ปัญหาภัยแล้งจะวิกฤตตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงเดือนเม.ย. เมื่อเข้าสู่เดือนพ.ค.สถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ