“พลเอกประวิตรฯ” ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ติดตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 สั่ง กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ(กอนช.) บูรณาการแผนป้องกันน้ำหลากนิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ กรมชลประทานน้อมรับนโยบาย ปฏิบัติ 4 แนวทาง คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง ระบบชลประทานเร่งระบาย Stand by เครื่องมือเครื่องจักร
บ่ายวันนี้ (25 ก.ค. 65) ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.สมุทรปราการ โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน พร้อมด้วย ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ และนำเสนอแผนการระบายน้ำในพื้นที่ ตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำหลากลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำบางปะกง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เพื่อติดตามความก้าวหน้าแผนงานและแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ การดำเนินการโครงการรักษ์คูคลองเฉลิมพระเกียรติ และโครงการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะ 13 มาตรการรับมือฤดูฝน ปี 65 ที่จังหวัดและทุกหน่วยงานได้จัดทำแผนปฏิบัติการระบายน้ำหลากในพื้นที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว และเพื่อให้การดำเนินการเกิดผลเป็นรูปธรรม จึงได้กำชับให้ สทนช. กรมชลประทาน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และ จ.สมุทรปราการ ร่วมบูรณาการจัดทำแผนหลักเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปูและพื้นที่โดยรอบ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการและประชาชนในพื้นที่เกิดความเชื่อมั่น รวมทั้งให้กรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งซ่อมแซมและบำรุงรักษาระบบระบายน้ำ อาคารบังคับน้ำ และสถานีสูบน้ำให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
ด้านนายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมชลประทานในฐานะหน่วยงานปฏิบัติ น้อมรับนโยบายดำเนินการตาม 13 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 65 พร้อมวางแผนป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่สมุทรปราการด้วยการ คาดการณ์พื้นที่เสี่ยง 4 แห่ง ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมบางปู ชุมชนคลองบางปลา ชุมชนบางพลี (คลองสำโรง) ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี และวัดบางบ่อ อ.บางบ่อ พร้อมกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการกำจัดวัชพืชไปแล้วกว่า 66,000 ตัน นอกจากนี้ ยังได้ทำการขุดลอกคลองพระองค์ไชยานุชิต คลองชายทะเล คลองสุวรรณภูมิ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนคลองสำโรง มีความคืบหน้าร้อยละ 56 ของแผนฯ การบริหารจัดการน้ำด้วยระบบชลประทาน เร่งระบายน้ำผ่านคลองระบายน้ำแนวดิ่ง ก่อนใช้สถานีสูบน้ำที่ติดตั้งอยู่ริมคลองชายทะเล จำนวน 12 สถานี อัตราการระบายรวม 42 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เร่งระบายลงสู่ทะเลตามลำดับ อีกด้านหนึ่งจะมีการระบายน้ำผ่านคลองระบายแนวขวาง เพื่อระบายน้ำไปลงแม่น้ำบางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ในอัตราการระบายรวม 16 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน บางส่วนจะมีการระบายลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ในอัตรา 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักร อาทิ เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ 49 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 21 เครื่อง สามารถระบายน้ำได้เพิ่มขึ้นวันละ 8 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเสริมการระบายน้ำให้เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชนสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำ และการช่วยเหลือได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 หรือ เฟสบุ๊คแฟนเพจ(Facebook) กรมชลประทาน หรือติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆได้ทางเว็บไซต์กรมชลประทาน www.rid.go.th
No Comments