เนสกาแฟ ฉลองวันกาแฟสากล 2023 รวมพลังคนไทยทำสิ่งดีๆเพื่อโลก ด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อความยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งที่ขับเคลื่อนการเกษตรเชิงฟื้นฟูภายใต้โครงการ“เนสกาแฟ แพลน 2030
เนสกาแฟ แบรนด์กาแฟอันดับ 1 ของคนไทยจากเนสท์เล่ รวมพลังคนไทยทำสิ่งดีๆเพื่อโลก ด้วยการจัดกิจกรรมเชิญชวนผู้บริโภคร่วมปลูกต้นไม้สร้างความยั่งยืนตามหลัก การเกษตรเชิงฟื้นฟูหรือRegenerative Agriculture สานต่อพันธกิจ ‘เนสกาแฟแพลน 2030’
พร้อมความรู้ด้วยการนำสวนกาแฟจำลอง ที่ปลูกอย่างยั่งยืนโดยใช้การเกษตรเชิงฟื้นฟูใน Glass House
ครั้งแรกใจกลางเมืองมาให้คนไทยได้สัมผัสในงาน
‘เนสกาแฟเดย์’ ภายใต้แนวคิด ‘ชงเนสกาแฟปลูกความยั่งยืน’ เพื่อฉลองวันกาแฟสากลในปีนี้ซึ่งจัดขึ้นที่แฟชั่นฮอลล์ สยามพารากอน
นอกจากนี้เนสกาแฟยังเปิดโอกาสให้คอกาแฟได้ดื่มด่ำกาแฟคุณภาพดีจากสวนที่ปลูกอย่างยั่งยืนที่ คาเฟ่ สไตล์รักษ์โลก และเชิญทีมพรีเซนเตอร์ นำโดย ณเดชน์คูกิมิยะ ,กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ ,ต่อ-ธนภพ ลีรัตนขจร ,หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ แจม-รชตะ มาพูดคุยถึงเรื่องราวกาแฟและความยั่งยืนในด้านต่าง ๆ ของเนสกาแฟ พร้อมแชร์เคล็ดลับในการส่งต่อความยั่งยืนให้โลก บอกเล่าเรื่องราวดี ๆ ของบรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟ และร่วมปลูกต้นไม้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเกษตรเชิงฟื้นฟูที่จะช่วยสร้างความสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพในสวนกาแฟเพื่อ สร้างความยั่งยืนทั้ง 4 ชนิด ได้แก่ ต้นยางนา ต้นตะเคียน ต้นสะเดาเทียม และต้นจำปาทอง ซึ่งล้วนเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเงาในส่วนกาแฟ ที่สามารถคลุมดินเก็บความชื้นและช่วยดูดซับคาร์บอน พร้อมปักป้ายชื่อในกระถางกันทุกคน และยังสามารถนพไป ถ่ายภาพเก๋ ๆ กับแก้วแดงยักษ์ได้อีกด้วย
นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า เปิดเผยว่า “กิจกรรมใน ครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการขับเคลื่อนการเกษตรเชิงฟื้นฟูภายใต้โครงการ ‘เนสกาแฟ แพลน 2030’ โดยมีเป้าหมายในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่วงการกาแฟในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050”
นางสาวศรีประภา จิงประเสริฐสุข ผู้จัดการธุรกิจกาแฟ สำเร็จรูปและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า”เราจะนำต้นไม้ไปปลูกที่บริเวณสวนกาแฟในจังหวัดชุมพรและส่งมอบต้นไม้ส่วนหนึ่งให้กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อ ต่อยอดความยั่งยืน และฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพในอีกหลายๆจังหวัดในประเทศไทย”
“ณเดชน์ กลัฟ ต่อ” เปิดเคล็ดลับส่งต่อความยั่งยืนให้โลก
ณเดชน์ กล่าวว่า “ผมว่าสิ่งที่ใกล้ตัวและทุกคนทุกบ้านสามารถทำได้นั่นคือ การแยกขยะ หลักการง่าย ๆ ของผม คือ แยกประเภท และไม่ทิ้งเศษอาหารไปปะปนกับขยะอื่น ๆ เพราะถ้าเราแยกได้ บรรจุภัณฑ์จะเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ ซึ่งมันจะช่วยลดการใช้พลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าน้อยลง และลดการปล่อยของเสียสู่โลก และจะเน้นเลือกใช้สินค้าบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก อย่างเนสกาแฟ ก็จะมีโลโก้คำว่า “ฉันรีไซเคิลได้”
ต่อ ธนภพ เล่าว่า “ผมมองว่า ทุกคนไม่จำเป็ นต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ เพราะต่อให้เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ
แต่ถ้าเราร่วมมือร่วมใจกันก็จะสามารถช่วยสร้างความยั่งยืนได้ผมให้ความสำคัญเรื่องการลงมือทำและยิ่งถ้าเราทำพร้อมกันทำทุกคนมันจะ impact มาก เพราะความยั่งยืนไม่สามารถจะเกิดจากคน ๆ เดียวได้ครับ
และในวันที่ผมว่างจากการถ่ายละคร เวลาจะออกไปไหน ก็จะเดินชิลล์ ๆ หรือใช้บริการรถไฟฟ้า ไม่ขับรถ หรือใช้รถตู้ นั่งด้วยกันหลายหลายคน เป็นการcar pool ก็เป็นอีกทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดโลกรวนได้ครับ”
กลัฟ คณาวุฒิ เล่าว่า “ การปลูกต้นไม้ก็เป็นการส่งต่อความยั่งยืนให้โลก มันอาจจะฟังดูเบสิกแต่จริง ๆ แล้ว
คือการเพิ่มการดูดซับคาร์บอน สร้างความหลากหลายทางชีวภาพ สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ
ระบบนิเวศที่สมบูรณ์”
การเกษตรเชิงฟื้นฟูจากความทุ่มเทของเกษตรกรสู่กาแฟคุณภาพ การเกษตรเชิงฟื้นฟู เป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน จุดเริ่มต้นของกาแฟคุณภาพของเนสกาแฟมาจากวัตถุดิบ หรือเมื่อไรกาแฟคุณภาพที่ปลูกอย่างยังยืนด้วยความทุ่มเทของเกษตรกรไทย เนสท์เล่ เป็นผู้ริเริ่มส่งเสริมการเกษตรเชิงฟื้นฟูซึ่ง เป็นการทำเกษตรกรรมแนวใหม่ที่ส่งเสริมการปลูกกาแฟคุณภาพควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยังยืน และเป็นหัวใจหลักของ “เนสกาแฟแพลน 2023”
โครงการด้านความร่วมมือระดับโลกซึ่งเนสท์เล่มุ่งส่งเสริมและให้ความรู้กับเกษตรกรไทยมานานหลายทศวรรษ เมล็ดกาแฟ ทุกเมล็ดที่รับซื้อจากเกษตรกรมาผลิตเป็นเนสกาแฟได้รับการรับรองมาตรฐานการเพาะปลูกอย่างยั่งยืนระดับโลก ที่เรียกว่า 4C 100% หัวใจของการเกษตรซึ่งฟื้นฟูมุ่งเน้น การปกป้อง,ทดแทน,ฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการเพาะปลูกกาแฟโดยเฉพาะอย่างยิ่งดินและน้ำ เช่น การส่งเสริมให้ปลูกพืชคุ้มดินการป้องกันการชะล้างพังทลายของหน้าดินการนำสื่อวัสดุเหลือทิ้งในฟาร์มกับมาทำปุ๋ยหมักซึ่งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมี นอกจากนี้เนสกาแฟยังส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชหลากชนิดเพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและยังเป็นการเสริมรายได้ให้เก
ษตรกรอีกด้วย
การทำเกษตรเชิงฟื้นฟูสร้างคุณค่าให้ทุกภาคส่วนในสังคมไทยแบบ Triple Win+ เพื่อโลก เพื่อเราทุกคน
ได้แก่ Win
อันดับที่1 คือความมุ่งมั่นของเนสท์เล่ในการสร้ างความมั่นคงทางอาหารผ่านการสร้างผลผลิตทางการเกษตรที่มั่นคงและเพียงพอ Win
อันดับที่ 2 คือ ดูแลเกษตรกร เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร ให้มีรายได้ที่ยั่งยืน และมีความพร้อมรับมือภาวะโลกร้อน
Win อันดับที่ 3 คือ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ด้วยการฟื้นฟูดิน ดูแลป่ า ปกป้องแหล่งน้ำ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และลดคาร์บอน และ + การสร้างคุณค่าให้กับผู้บริโภค ด้วยการส่งมอบกาแฟคุณภาพจากวัตถุดิบคุณภาพให้กับคอกาแฟชาวไทย และส่งต่อโลกที่น่าอยู่ให้กับคนรุ่นต่อไปเนสกาแฟ ฉลองวันกาแฟสากล 2023 รวมพลังคนไทยทา สิ่งดีๆ เพื่อโลก ด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อความยั่งยืน ตามหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟภู ายใต้โครงการ “เนสกาแฟ แพลน 2030”
มุ่งสู่เป้าหมายในการใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก 100% ด้วยความเชี่ยวชาญและขนาดธุรกิจของเนสท์เล่บริษัทสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่เพื่อดูแลและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วยการปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของเนสกาแฟให้มีความยั่งยืนมากขึ้น ได้แก่ 100% ของบรรจุภัณฑ์เนสกาแฟเบลนด์แอนด์บรู ทำมาจากพลาสติกตระกูลเดียวกันที่เรียกว่า Mono Structure ซึ่งได้รับการออกแบบให้สามารถนำไปรีไซเคิลได้ในขณะที่เนสกาแฟกระป๋องพร้อมดื่มทั้งหมดเลยเปลี่ยนเป็นกระป๋องอะลูมิเนียม ซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้ 100% และยังมีการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากกระดาษในกลุ่มผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู สูตรน้ำตาลน้อย และไม่มีน้ำตาลทราย ทดแทนพลาสติกเนสกาแฟ ฉลองวันกาแฟสากล 2023 รวมพลังคนไทยทำ สิ่งดีๆ เพื่อโลก ด้วยการปลูกต้นไม้เพื่อความยั่งยืน ตามหลักการเกษตรเชิงฟื้นฟูภายใต้โครงการ “เนสกาแฟ แพลน 2030”
No Comments